Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ Tree Canopy Lab ที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เมืองเย็นขึ้น ด้วยการทำแผนที่ว่าบริเวณไหนที่ต้องปลูกต้นไม้เพิ่มโดยจะเริ่มใช้ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกาก่อนเป็นที่แรก
Tree Canopy Lab ใช้ภาพถ่ายทางอากาศและ AI เพื่อทำแผนที่ต้นไม้ทุกต้นในเขตเมือง
Google พัฒนาเครื่องมือดังกล่าวขึ้นมาโดยอาศัยแนวคิดที่ว่าบริเวณที่เป็นเมืองใหญ่มักจะมีอากาศร้อนกว่าพื้นที่รอบนอก อันเนื่องมาจากการดักจับความร้อนจากตัวอาคารและยางมะตอยที่ใช้ในการสร้างผิวถนน ดังนั้นวิธีง่ายๆในการทำให้พื้นที่ในเขตเมืองเย็นลงคือการปลูกต้นไม้เพิ่มเติมโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีต้นไม้ไม่มากนัก
เครื่องมือ Tree Canopy Lab ของ Google ใช้ภาพถ่ายทางอากาศและ AI เพื่อทำแผนที่ต้นไม้ทุกต้นในเขตเมือง จากนั้นก็นำข้อมูลดังขึ้นไปแสดงบนแผนที่แบบ interactive พร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับย่านที่มีประชากรหนาแน่นและมีความเสี่ยงต่ออุณหภูมิสูง จุดประสงค์ก็คือการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นในพื้นที่เหล่านี้เพื่อช่วยให้เมืองต่างๆปรับตัวเข้ากับโลกร้อนและช่วยชีวิตคนในช่วงที่เกิดคลื่นความร้อนได้
Google นำร่องทดลอง Tree Canopy Lab ในลอสแองเจลิส โดยบริษัทเปิดเผยว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองต่างๆอีกหลายร้อยเมือง นักวางผังเมืองที่สนใจจะใช้เครื่องมือนี้ในอนาคตสามารถติดต่อ Google เข้ามาได้ ซึ่ง Rachel Malarich เจ้าหน้าที่ป่าไม้คนแรกของเมืองลอสแองเจลิสกล่าวว่าวิธีนี้เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการวางแผนจัดการความร้อนในเขตเมือง
เครื่องมือ Tree Canopy Lab พบว่าชาวลอสแองเจลิสมากกว่าครึ่งอาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีต้นไม้บังแดดน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งที่ปกติค่าเฉลี่ยของเมืองต้องมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบว่าอีก 44 เปอร์เซ็นต์อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงจากความร้อนสูง
Google กล่าวว่าเครื่องมือใหม่ Tree Canopy Lab นี้สามารถช่วยเมืองต่าง ๆ เช่นลอสแองเจลิส ในการดูแลรักษาต้นไม้ได้ ก่อนหน้านี้ลอสแองเจลิสยังใช้เทคโนโลยี LIDAR ในการทำแผนที่ต้นไม้ในเมืองซึ่งใช้เซ็นเซอร์เลเซอร์เพื่อตรวจจับต้นไม้ แต่กระบวนการดังกล่าวมีราคาแพงและช้า ในทางกลับกันบริการ Tree Canopy Lab นั้นใช้งานได้ฟรีและจะได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ อีกมากมาย ข่าวสารวงการไอที ได้ที่นี่ และ ปากกาที่ใช้บนยานอวกาศ ลองคิดไปอีกมุมหนึ่งของโลกคุณจะใช้ปากกาแบบไหนในการจดบันทึกข้อมูล