Mon. Apr 1st, 2024
Microsoft

gaze-tracking นักพัฒนาของ Microsoft พัฒนาระบบการติดตามการมองเห็น gaze-tracking  ด้วย Hardware ที่มีความแม่นยำเป็นพิเศษที่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์กล้อง Web cam ภายนอกได้

โดยแรงบันดาลใจในการพัฒนาระบบ AI ที่ช่วยในการมองเห็น gaze-tracking  นี้มาจากผู้ที่มีปัญหาความผิดปกติของเซลล์ประสาทสั่งการ แต่การออกแบบระบบช่วยในการมองเห็นของบุคคลนั้นไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เนื่องจากมีตัวแปรต่างๆมากมายมาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง องศาในการหันศีรษะ รวมถึงระดับของแสงสว่าง

gaze-tracking

การพัฒนาระบบ AI ที่ช่วยในการมองเห็น gaze-tracking  นี้มาจากผู้ที่มีปัญหาความผิดปกติของเซลล์ประสาทสั่งการ

อุปกรณ์การแพทย์หลายชนิดที่ผลิตออกมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนที่มีปัญหาในการมองเห็นแต่ปัญหาก็คือมักจะมีราคาแพง ส่วนอุปกรณ์ที่มีราคาถูกก็มักเกิดความผิดพลาดเนื่องจากมีตัวรบกวนมากเกินไป

Microsoft ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ gaze-tracking มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทดลองใช้แสงอินฟราเรดหลายดวงรอบ ๆ จอแสดงผลสำหรับการติดตามดวงตารวมถึงกล้องและเซ็นเซอร์วัดความลึก

Microsoft

จนกระทั่งในที่สุด Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันแรกที่นำเสนอ Eye Control ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้สายตาในการควบคุมเมาส์และคีย์บอร์ดบนหน้าจอได้และ Eye Drive Library ซึ่งเลียนแบบจอยสติ๊กผ่านระบบ gaze-tracking ได้

ความพยายามล่าสุดของวิศวกรของ Microsoft ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกในการสร้างตัวติดตาม gaze-tracking ที่ใช้ซอฟต์แวร์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ทีม MIT ที่อยู่เบื้องหลัง GazeCapture ได้ออกแบบ iTracker ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ติดตามการจ้องมองบนอุปกรณ์ Apple โดยใช้กล้องในตัว ระบบของพวกเขาพบข้อผิดพลาดในการคาดการณ์ 1.86 เซนติเมตรและ 2.81 เซนติเมตรบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตามลำดับโดยไม่มีการสอบเทียบ

การมองเห็น gaze-tracking

เช่นเดียวกับ iTracker โมเดลการทำงานจะใช้ตาซ้ายตาขวาและบริเวณใบหน้าจากภาพจากกล้องเป็นอินพุตพร้อมกับตารางใบหน้า 25 x 25 ที่ระบุตำแหน่งของพิกเซลใบหน้าในภาพที่ถ่าย ภาพที่ป้อนเหล่านี้จะถูกส่งผ่านโมเดลย่อยของดวงตาและใบหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับอัลกอริธึมการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ ResNet18 ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและผลลัพธ์ของโมเดลย่อยเหล่านี้จะถูกประมวลผลเป็นพิกัดจุดจ้อง

นักวิจัยได้ฝึกฝนโมเดลของ gaze-tracking ในบางส่วนของชุดข้อมูล GazeTracker แต่พวกเขายังทำการเพิ่มข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าโมเดลจะจัดการกับรูปแบบต่างๆที่อาจพบในโลกแห่งความเป็นจริงได้ดีขึ้น

ติดตามข่าวสารอื่น ๆ อีกมากมาย ข่าวสารวงการไอที ได้ที่นี่ และ Facebook ประกาศเปิดตัว Messenger API ใช้สำหรับการสื่อสารบน Instagram